รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ประกาศกำหนดเวลาทำการของร้านอาหาร การขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการบังคับสวมหน้ากากอนามัย หลังอัตราการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่พุ่งสูงเป็นที่ 3 ของทวีปยุโรป

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 14 ต.ค.ว่านายกรัฐมนตรีมาร์ค รุตต์ แถลงเมื่อวันอังคาร ว่านับตั้งแต่เวลา 22.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันพุธ ( 03.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย ) ร้านอาหาร ผับ บาร์ และคาเฟ่ทุกแห่งทั่วประเทศ ต้องปิดให้บริการภายในร้านแก่ลูกค้า “อย่างน้อย 4 สัปดาห์” โดยอนุญาตเฉพาะการซื้อกลับบ้านหรือบริการส่งตามบ้านเท่านั้น และต้องยุติการขายภายในเวลา 22.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของแต่ละวัน  ส่วนร้านอาหารภายในโรงแรมให้บริการได้เฉพาะกับแขกที่เข้าพัก
 
ขณะที่การสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าในสถานที่สาธารณะ ไม่ว่าจะอยู่ในร่มหรือกลางแจ้ง  “เป็นสิ่งต้องปฏิบัติ” สำหรับผู้มีอายุตั้งแต่ 13 ปี การห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกฮอล์หลังเวลา 20.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของแต่ละวัน ( 01.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย )
 
นอกจากนี้ การรวมกลุ่มในสถานที่สาธารณะ ไม่ว่าจะอยู่ในร่มหรือกลางแจ้ง ต้องไม่เกิน 4 คน การไปมาหาสู่ตามบ้านยังคงเกิดขึ้นได้ แต่เจ้าบ้านรับแขกได้ไม่เกิน 3 คน การแข่งขันกีฬาซึ่งมีผู้เล่นมากกว่า 4 คน ให้ระงับไว้ก่อน และรัฐบาลขอความร่วมมือให้บริษัทเอกชนกลับมาใช้มาตรการทำงานจากที่บ้าน “อย่างจริงจัง” อีกครั้ง

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของรัฐบาลเนเธอร์แลนด์เกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังกระทรวงสาธารณสุขรายงานการพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 อีก 7,393 คน เป็นสถิติรายวันสูงสุด เพิ่มสถิติสะสมของผู้ติดเชื้อเป็นอย่างน้อย 188,876 คน และเสียชีวิตอย่างน้อย 6,631 คน เพิ่มขึ้น 35 คน ทั้งนี้ เนเธอร์แลนด์มีอัตราอุบัติการณ์ของโรค หรือค่า “ไออาร์” ในรอบ 14 วันล่าสุด ต่อประชากร 100,000 คน สูงเป็นอันดับ 3 ของทวีปยุโรป รองจากสาธารณรัฐเช็กและเบลเยียม